1. มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานวตฺถุ
[857]
‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติฯ
[858]
‘‘มณฺฑูโกหํ ปุเร อาสิํ, อุทเก วาริโคจโร;
ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺส, อวธี วจฺฉปาลโกฯ
[859]
‘‘มุหุตฺตํ จิตฺตปสาทสฺส, อิทฺธิํ ปสฺส ยสญฺจ เม;
อานุภาวญฺจ เม ปสฺส, วณฺณํ ปสฺส ชุติญฺจ เมฯ
[860]
‘‘เย จ เต ทีฆมทฺธานํ, ธมฺมํ อสฺโสสุํ โคตม;
ปตฺตา เต อจลฏฺฐานํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’ติฯ
มณฺฑูกเทวปุตฺตวิมานํ ปฐมํฯ
2. เรวตีวิมานวตฺถุ
[861]
[ธ. ป. 219 ธมฺมปเท] ‘‘จิรปฺปวาสิํ ปุริสํ, ทูรโต โสตฺถิมาคตํ;
ญาติมิตฺตา สุหชฺชา จ, อภินนฺทนฺติ อาคตํ;
[862]
[ธ. ป. 220 ธมฺมปเท] ‘‘ตเถว กตปุญฺญมฺปิ, อสฺมา โลกา ปรํ คตํ;
ปุญฺญานิ ปฏิคณฺหนฺติ, ปิยํ ญาตีว อาคตํฯ
[863]
[เป. ว. 714]‘‘อุฏฺเฐหิ เรวเต สุปาปธมฺเม, อปารุตทฺวาเร [อปารุภํ ทฺวารํ (สี. สฺยา.), อปารุตทฺวารํ (ปี. ก.)] อทานสีเล;
เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา เนรยิกา ทุกฺเขนา’’ติฯ
[864]
อิจฺเจว [อิจฺเจวํ (สฺยา. ก.)] วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต ทฺเว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;
ปจฺเจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเกฯ
[865]
‘‘อาทิจฺจวณฺณํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กญฺจนชาลฉนฺนํ;
กสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํฯ
[866]
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา [จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)], อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติฯ
[867]
‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทญฺญู;
ตสฺเสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํฯ
[868]
‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;
ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปตฺโต วิมาเน’’ติฯ
[869]
‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;
ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยํ ทสฺสนายา’’ติฯ
[870]
‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธมฺเม, ปุญฺญํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;
น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติฯ
[871]
‘‘กิํ นุ คูถญฺจ มุตฺตญฺจ, อสุจี ปฏิทิสฺสติ;
ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติฯ
[872]
‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;
ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติฯ
[873]
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
เกน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติฯ
[874]
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อญฺเญ วาปิ วนิพฺพเก [วณิพฺพเก (สฺยา. ก.)];
มุสาวาเทน วญฺเจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยาฯ
[875]
‘‘เตน สํสวโก ลทฺโธ, คมฺภีโร สตโปริโส;
ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเตฯ
[876]
‘‘หตฺเถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กณฺเณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;
อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติฯ
[877]
‘‘สาธุ โข มํ ปฏิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;
ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติฯ
[878]
‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;
สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติฯ
[879]
‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุฏฺโฐ เม เอวํ วเทยฺย;
‘นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย [สยน (สี.)] มถนฺนปานํ;
นหิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’ฯ
[880]
‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนิํ ลทฺธาน มานุสิํ;
วทญฺญู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;
ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จฯ
[881]
‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสาฯ
[882]
‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;
ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ
[883]
‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;
น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฏฺฐมิทํ มยา’’ติ;
[884]
อิจฺเจวํ วิปฺปลปนฺติํ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;
ขิปิํสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธปาทํ อวํสิรํฯ
[885]
‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสิํ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;
วิตเถน จ สามิกํ วญฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติฯ
เรวตีวิมานํ ทุติยํฯ
3. ฉตฺตมาณวกวิมานวตฺถุ
[886]
‘‘เย วทตํ ปวโร มนุเชสุ, สกฺยมุนี ภควา กตกิจฺโจ;
ปารคโต พลวีริยสมงฺคี [พลวีรสมงฺคี (ก.)], ตํ สุคตํ สรณตฺถมุเปหิฯ
[887]
‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;
มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหิฯ
[888]
‘‘ยตฺถ จ ทินฺน มหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;
อฏฺฐ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหิฯ
[889]